324 เสียงผ่าน ม.291/4 คุณสมบัติต้องห้าม ส.ส.ร. 22 คน

มติชน 21 เมษายน 2555 >>>


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.25 น. ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ...ในวาระ 2 ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยพล.อ.ธีรเดช มีเพียร รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้สั่งให้ที่ประชุมลงมติมาตรา 291/4 ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตาม กมธ. เสียงข้างมากเสนอตามมาตรา 291/4 ที่กำหนดให้ ส.ส.ร.ตามมาตรา 291/1(2) ซึ่งมาจากการคัดเลือกโดยที่ประชุมของรัฐสภา 22 คน ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 291/2 (1) และ (2) และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 291/3 (1) และ (3) โดยที่ประชุมเห็นด้วย 324 เสียง ไม่เห็นด้วย 15 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม 344 คน อย่างไรก็ตาม เดิมทีมีการนัดประชุมในเวลา 09.00 น. แต่องค์ประชุมยังไม่ครบทำให้ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าในการรอสมาชิกให้ครบองค์ประชุมจึงสามารถเริ่มการประชุมได้ อีกทั้งการพิจารณา เมื่อวันที่ 20 เมษายน ได้ลากยาวข้ามวันจนมีการพักการประชุมเมื่อเวลา 01.00 น. โดยประมาณ
ภายหลังการลงมติมาตรา 291/4 เสร็จสิ้น นายณรงค์ ดูดิง ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลุกขึ้นทวงถาม พล.อ.ธีรเดช ที่เคยให้คำมั่นว่าจะวินิจฉัยกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ตนว่า "ควาย" โดย พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า กระบือหรือควายที่อภิปรายกันสองฝ่าย ถ้าจะให้ตนพูดก็ใช้คำพูดเดียวกัน แม้จะเป็นสุภาษิตแต่ก็ผิดกาลเทศะ ดังนั้น ตนวินิจฉัยว่าพอดีกันให้ผ่านไป
จากนั้นเข้าสู่การพิจารณามาตรา 291/5 ที่กำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดเลือกตั้ง ส.ส.ร. ภายใน 75 วัน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมากแก้ไขให้นำกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้โดยอนุโลม รวมทั้งให้การวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการคัดค้านตัดสิทธิการเลือกตั้ง การเพิกถอนผลการเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ให้เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์พิพาษาภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับคำร้อง
ทั้งนี้ ก่อนพิจารณามาตรา 291/5 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ หารือว่า การพิจารณามาตรา 291/5 โดยเฉพาะมาตราที่ กมธ.แก้ไขเพิ่มเติมมาก ในมาตรา 291/5 มีการแก้ไขวรรคสอง แต่เมื่อถึงวรรคสี่ วรรคห้า และวรรคท้าย เป็นการเปลี่ยนแปลงนัยยะสำคัญมาก โดยสมาชิกและตนต้องการอภิปรายส่วนแก้ไขจะเรียงลำดับอย่างไร

กมธ. ค้านออก กม. เลือก ส.ส.ร. ยันใช้ กม. เลือกตั้งท้องถิ่นได้

จากนั้น นายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน กมธ. พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่า มาตรา 291/5 กมธ. ได้ปรับเปลี่ยนถ้อยคำไว้มาก ผู้รับผิดชอบจัดการเลือกตั้งคือ กกต. ได้เชิญตัวแทน กกต. มาฟังการประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นเสนอแนะ วันประชุมเลขาธิการ กกต. มาประชุมด้วย โดยร่างเดิมให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต มาใช้โดยอนุโลมให้ กกต. ออกหลักเกณฑ์ และวิธีการ ต่อมา กกต.มีหนังสือทางการมายัง กมธ. ลง วันที่ 27 มีนาคม 2555 สรุปว่า กกต. ไม่สบายใจที่จะให้ กกต. ออกหลักเกณฑ์เอง อยากให้ออก พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ร. ทำให้สอบถามทาง กมธ. ต่อมาว่าจะออกกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยเฉพาะ หรือหากฎหมายไหนมาเทียบเคียง ซึ่งที่ประชุมบอกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เป็นการเลือกตั้งเฉพาะกิจหากออกมาใช้ครั้งเดียวไม่สมควร อีกส่วนบอกว่าน่าจะนำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาใช้ แต่กฎหมายดังกล่าวซับซ้อน ที่สุดจึงให้นำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาใช้บังคับโดยอนุโลม
นายสามารถกล่าวว่า จากนั้น กกต. มีหนังสือตอบกลับมามายัง กมธ. ลงวันที่ 5 เมษายน 2555 โดยไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ไม่ปฏิเสธว่าการใช้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เพียงแต่บอกว่าในกฎหมายหลังเลือกตั้งแล้วให้ กกต. รับรองผลใน 15 วัน โดย กมธ. ไม่อยากให้ยืดเยื้อเป็นปีให้รับรองผล กกต. เป็นห่วงว่าการพิจารณาตัดสินว่าใครจะใบเหลืองและใบแดงจะทำอย่างไร ที่สุด กมธ. เสียงข้างมากบอกว่าให้อำนาจการวินิจฉัยเป็นเรื่องศาลอุทธรณ์ให้ศาลดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วันหลังรับคำร้อง กกต. แนะว่าจะส่งผ่านช่องทางไหนไปศาลอุทธรณ์ ซึ่ง กมธ. เห็นว่าเราบัญญัติไว้ตามถ้อยคำการวินิจฉัยชี้ขาดตัดสิทธิเลือกตั้งการเพิกถอนทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ส.ส.ร.ให้เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษาใน 30 วัน
   "ถามว่า กกต. สบายใจไหม กกต. สบายใจไม่ต้องออกหลักเกณฑ์เองมีกฎหมายบังคับใช้โดยอนุโลม กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นนี้มีศักดิ์ศรีเท่ากับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้น มาตรา 291/1 จะให้มี ส.ส.ร. จังหวัดละ 1 คนนั้นสามารถนำกฎหมายท้องถิ่นมาใช้ได้" นายสามารถ  กล่าว

รับ กกต. ไร้อำนาจแจกใบแดง-เหลือง ส.ส.ร.

นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง ปชป. ทักท้วงว่า แสดงว่า กกต. ออกใบเหลืองและใบแดงไม่ได้ใช่หรือไม่ ส่วนนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ถามว่าทำไมไม่ออกกฎหมายเฉพาะอย่างที่ กกต. แนะนำมา โดยนายสามารถชี้แจงว่า กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นเหมาะสมกว่า เพราะเลือกตั้งนายก อบจ. ได้จังหวัดละ 1 คน ถ้านำกฎหมายท้องถิ่นมาใช้ก็จะตัดปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งต่างประเทศ ส่วน กกต. จะไม่สามารถออกใบเหลืองหรือใบแดงได้ และเรื่องคัดค้านเพิกถอนสิทธิให้ศาลอุทธรณ์ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ถ้ามีคนร้องศาล ศาลก็ตัดสินให้เรียบร้อยแล้ว

ถก 4 ฝ่ายหารือกรอบเวลา

ต่อมานายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกขึ้นหารือว่า ตนได้ประสานงานกับสภาเพื่อขอหารือตามข้อเสนอแนะของผู้นำฝ่ายค้าน โดยใช้ห้องประชุมงบประมาณ นัด 4 ฝ่ายหารือกัน ข้อเสนอแนะเรื่องเวลาในการอภิปรายในเวลา 12.15 น.
ขณะที่นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ ส.ส.ตาก ปชป. หารือว่า การกำหนดลงมติวาระ 3 วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ให้จบก็อึดอัด ตนเสนอเพื่อมิให้ติดล็อกวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ให้ออก พ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุม แล้วให้พวกเราทำภาระหน้าที่ต่างๆ ปกติ หลังจากนั้น จะให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ สัปดาห์ละ 3 วันก็ได้ ที่สุด พล.อ.ธีรเดช ตัดบทให้ดำเนินการพิจารณามาตรา 291/5 และให้วิป 3 ฝ่าย และ กมธ. หารือเรื่องกรอบเวลาการพิจารณาแล้วให้มาแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบต่อไป

"เทพไท" ปูดธงนายใหญ่ดูหมอเร่งแก้ รธน. ให้ทัน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ในฐานะ กมธ. สงวนความเห็น แก้ไขมาตรา 291/5 อภิปรายว่าได้แปรญัตติให้ กกต. จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ภายใน 120 วัน จากที่ กมธ. เสียงข้างมากเสนอให้ กกต. จัดเลือกตั้ง ส.ส.ร. ให้เสร็จใน 75 วัน ทั้งนี้ ตนทราบมาว่านายใหญ่ต้องการให้รัฐธรรมนูญเสร็จโดยเร็วเพราะดูหมอไว้แล้ว หากทำเสร็จจะสามารถกันรัฐประหารได้และล้างโทษตัวเองให้เข้าประเทศได้โดยสะดวก
   "ที่ กมธ. ไม่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เนื่องจากต้องเสนอผ่านสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา 3 วาระ ใช้เวลา 2-3 เดือนเสียเวลายืดเวลาออกไปไม่เป็นไปตามที่นายใหญ่ต้องการดูหมออีทีหรือหมอเขมรไว้แล้ว ดังนั้น ต้องหากฎหมายอะไรก็ได้เทียบเคียงไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนรับใช้ใกล้ชิดหาวิธีพลิกแพลงทุกรูปแบบค้นคว้าหาแนวทางโดยเอากฎหมายฉบับไหนขึ้นมาใช้ได้โดยไม่ต้องร่างกฎหมายใหม่" นายเทพไท กล่าว และว่า การให้ กกต. ไม่ต้องทำอะไรแค่จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เท่านั้น และให้ชี้ผลเสียผลได้โดยเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์แล้วศาลจะพิจารณาเสร็จใน 30 วันหรือไม่
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ปชป. อภิปรายว่า ตนได้คุยกับ ส.ว. ว่าทำไมต้องอดหลับอดนอนมาอภิปราย ซึ่งได้คำตอบว่ามาเพราะขณะนี้กฎหมายปรองดอง กฎหมายนิรโทษกรรมกำลังจ่อเข้าสภาแล้ว แต่ต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อน รวมทั้งการให้เวลา กกต. 15 วัน ในการประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.ร. ก็น้อยเกินไปในการตรวจสอบ ซึ่งนายสามารถกำลังปู้ยี่ปู้ยำเพื่อให้ได้ ส.ส.ร. ตามที่นายต้องการหรือไม่