ครบรอบ 2 ปีเมษาเลือด "เมียร่มเกล้า" เซ็งคดีสามีช้า จี้รัฐเร่งไขคดี ซัดปรองดองข้ามขั้นตอน ค้นหาความจริง

มติชน 10 เมษายน 2555 >>>


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 เมษายน ที่วัดบวรนิเวศวรวิหาร มีการจัดพิธีทำบุญครบรอบ 2 ปีการเสียชีวิตของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รอง เสธ.พล.ร. 2 รอ.) จากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยมี พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.วลิต โรจนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1  นายทหารชั้นผู้ใหญ่จาก พล.ร. 2 รอ. และผู้บังคับหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 ในกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาร่วมงาน
นอกจากนี้ ยังมีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี มาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ ภายในงานได้นำหนังสือชื่อ "ในความรัก พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม" ซึ่งเคยตีพิมพ์ในงานครบรอบวันเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว มาจัดพิมพ์ใหม่และจัดจำหน่าย เพื่อนำเงินไปสมทบทุน "มูลนิธิพลเอกร่มเกล้าฯ" ช่วยเหลือครอบครัวและบุตรข้าราชการทหาร
จากนั้น นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า กล่าวว่า วันนี้ตนมาทำบุญครบรอบ 2 ปี ร่วมกับญาติของทหารที่เสียชีวิตพร้อม พล.อ.ร่มเกล้า เหตุการณ์ผ่านไป 2 ปี มีสิ่งที่เราไม่เข้าใจเกิดขึ้น จนต้องสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคดีต่างๆ เพราะ 2 ปีก็เป็นเวลาที่เราให้มากพอสมควรกับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการ แต่ว่าคดีมีความคืบหน้าไประยะหนึ่งแล้ว ดูเหมือนกับว่ามีการเปลี่ยน ซึ่งเราไม่เข้าใจก็ต้องถามด้วยเจตนาบริสุทธิ์ที่อยากจะฟังคำตอบ
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะหาตัวคนร้ายที่สังหาร พ.อ.ร่มเกล้า ได้หรือไม่ นางนิชากล่าวว่า เป็นเรื่องยาก เพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก แต่อย่างน้อยที่สุดถ้าเราเห็นความตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะป้องกันป้องปราม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก คงจะทำให้การตายของคนที่ตายไปไม่สูญเปล่า ไม่ว่าจะหาตัวได้หรือไม่ได้ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือภาครัฐแสดงให้เห็นว่าหลักนิติรัฐคืออะไร อะไรคือการทำผิด อะไรคือการไม่เคารพนิติรัฐ อะไรคือการฝ่าฝืนศีลธรรมที่ถูกต้อง ทั้งนี้ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่พูดกันมาตลอด หากว่าคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราเชื่อมั่น แต่ว่าขั้นตอนกว่าจะเดินไปถึงจุดนั้นเป็นสิ่งที่เราก็รอคอย
เมื่อถามว่า ขณะที่ครอบครัวผู้สูญเสียยังเรียกร้องไม่สำเร็จ แต่อีกฝ่ายกลับต้องการนิรโทษกรรม นางนิชากล่าวว่า ถ้ามองความปรองดองสมานฉันท์ ไม่ใช่มีแค่การนิรโทษกรรม แต่มีองค์ประกอบ 4 อย่างคือ การค้นหาความจริง การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การเยียวยา การนิรโทษกรรม ไม่สามารถจะแตะเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วบอกว่านี่คือการปรองดอง ทุกอย่างต้องไปทั้ง 4 ตัวแปร แล้วควรต้องเรียงลำดับว่าจาก 1 ไปสู่ 2 3 และ 4 แต่วันนี้ต้องการคำอธิบายว่า ทำไมข้ามขั้นตอนการค้นหาความจริง แล้วกระโดดไปสู่นิรโทษกรรม อยากจะฝากว่า ความปรองดองสมานฉันท์เป็นเรื่องของคนในชาติ ประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้นอาจต้องใช้เวลาในการเยียวยาเวลา มันเป็นโอสถที่ใช้ในการเยียวยา จะทำให้การพูดคุยกันในสังคม การเปิดใจความคิดเห็นรับฟังซึ่งกันละกัน ก็เป็นการเยียวยาไปในตัว หากรีบเร่งมากน่าจะนำไปสู่ผลเสียมากกว่าผลดี ประชาชนน่าจะมีโอกาสมีส่วนร่วมในกระบวนการสมานฉันท์
   "วันนี้ เรายังไม่รู้ว่าคำว่าปรองดองหมายถึงอะไร เราพูดกันจนเป็นวาทกรรม แต่ความปรองดอง คือ การยอมรับของคู่กรณีทุกฝ่าย บางทีเราก็สับสนว่า อะไรคือคำว่าปรองดอง ผลลัพธ์คืออะไร ต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ขัดแย้งในหัวใจของเราให้คลี่คลายออกไปได้ และจากความรู้สึกของเหยื่อ หากความขัดแย้งมันก่อตัวขึ้นในใจมันน่ากลัวว่าจะพัฒนาไปสู่ความก้าวร้าวรุนแรงและนำไปสู่การเผชิญหน้าในการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา การจัดการกับความรู้สึกของมนุษย์มันยาก" นางนิชากล่าว และว่า ความปรองดองก็น่าจะเดินหน้าไปเรื่อยๆ แต่ต้องทำคู่กันไปทุกด้านทั้ง 4 ด้าน ควรเริ่มเดินตั้งแต่วันนี้ แต่เราให้น้ำหนักอะไรมากกว่ากันสิ่งที่ทำมันตอบโจทย์หรือไม่ว่าทำให้ความรู้สึกของคนในชาติดีขึ้น