'ธิดา' หารือ 'ยงยุทธ' เกณฑ์จ่ายเงินเยียวยา "เสื้อแดง" จ่าย 3.25 ล้าน ขีดเส้น 2 เดือน อีก 4.5 ล้าน จ่ายเป็นสลากออมสิน
นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมกับญาติทั้งหมดอีก 12 ครอบครัว ได้เดินทางเข้าพบนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เพื่อหารือถึงเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยากลุ่มผู้ชุมนุมนปช.ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวงเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต พร้อมกับสอบถามถึงขั้นตอนการเยียวยา รวมถึงกำหนดการของญาติว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ นปช. สามารถรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง คือช่วยผู้เสียหาย และช่วยให้รัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นต่อไป นอกจากนี้ นางธิดายังได้สวัสดีปีใหม่ และอวยพรขอให้นายยงยุทธได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยต่อไปอีกด้วย
"ขอขอบคุณนางธิดา ในฐานะที่ดูแลผู้รักประชาธิปไตย ต่อจากนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. พร้อมกับขอชี้แจงว่ามติครม.ที่ออกมา เกิดขึ้นตามความประสงค์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ผมดำเนินการตามที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานได้มีข้อสรุปอะไรมา ให้รีบไปทำ แต่บังเอิญไปติดเรื่องน้ำท่วมจึงล่าช้าไปบ้าง เมื่อน้ำลด ก็รีบทำให้พวกเราทุกคน เพราะหัวอกมนุษย์เสียคนที่เรารัก ไม่มีวันกลับมา ซึ่งถือเป็นเรื่องเจ็บปวด โดยเฉพาะทางคอป.ได้สรุปไว้ชัดว่าพลเมืองประเทศสมควรจะแสดงความประสงค์ทางการเมืองได้ ถือเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องดูแลเขา เพราะประชาชนทั้งหมดถือว่า บาดเจ็บและเสียชีวิตความประสงค์ทางการเมือง" นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า แต่รัฐไม่มีการช่วยเหลือเยียวยาได้ ปคอป. ก็เอามาขายผล ให้เป็นรูปธรรม เป็นการเยียวยาจิตใจผู้ที่เสียอกเสียใจ อย่างไรก็ตามยอดเยียวยาทั้งหมด 7.75 ล้านบาท ในกรณีที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล ก็ไม่เกิน 2 แสนบาท คงต้องไปดูข้อเท็จจริงอีกครั้งค่ารักษาเท่าไร ซึ่งจะแบ่งจ่ายออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกนั้นจะจ่าย 3 ล้าน เพื่อเยียวยาจิตใจ และอีก 2.5 แสน เป็นค่าทำศพ รวมทั้งหมด 3.25 ล้าน ที่สามารถจ่ายได้ทันที ส่วนที่เหลือ 4.5 ล้านรัฐบาลจะนำไปซื้อสลากออมสิน หรือกองทุนรวมที่มีดอกเบี้ยเงินฝากในระยะเวลา 5 ปี เพื่อเป็นเงินออมให้บุตรและครอบครัวต่อไป โดยอาจมีโอกาสถูกสลากออมสินด้วย ซึ่งเมื่อครบ 5 ปีแล้วก็เป็นสิทธิ์ของผู้ที่เป็นเจ้าของเงินว่าจะซื้อต่อ หรือจะถอนออกมาเป็นเงินก้อน
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า เงินในส่วนนี้จะสามารถพิจารณาจ่ายได้ อย่างเร็วภายใน 1 เดือนครึ่ง หรืออย่างช้าที่สุด ภายใน 2 เดือน เรื่องนี้ได้มีการแต่งตั้งให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการพิจารณาหลักเกณฑ์ ว่าจะมอบหมายให้กระทรวงใดเป็นผู้จ่าย ซึ่งจะประชุมอนุกรรมการครั้งแรกในสัปดาห์หน้า และจะมีการประชุมครั้งเดียว โดยจะหารือครอบคลุมไปเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาถึงร้านค้าที่โดนเผา ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ซึ่งในส่วนของผู้บาดเจ็บอาจมีจำนวนมาก และต้องทยอย ๆ จ่ายตามฐานข้อมูลที่มีมา ซึ่งเมื่อได้ผลการประชุมแล้วจะรีบแจ้งหลักการให้ทราบทันที
"ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการซื้อชีวิต เพราะวันที่พรรคเพื่อไทยได้ขึ้นเป็นรัฐบาลนั้น ผมได้ขอให้สมาชิกพรรคทุกคนยืนขึ้นไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทุกคนในฐานะวีรบุรุษประชาธิปไตย และกลุ่ม นปช. ทุกคน ถือเป็นคนที่ต้องการความยุติธรรม ความเสมอภาค แม้ชีวิตของผู้ตายทั้งหมดจะไม่ค่อยอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป แต่อยู่ในใจของคนที่รักประชาธิปไตยทุกคน และขอให้ญาติได้ภูมิใจในวีรชนเหล่านี้ว่าได้สร้างค่า สร้างความสำคัญของประชาธิปไตย ให้เราต้องหวงแหนให้มากที่สุด" ประธาน ปคอป. กล่าว
ขณะที่นางธิดาได้ถามนายยงยุทธว่า หลักฐานที่จะต้องใช้เพื่อรับเงินเยียวยานั้นจำเป็นต้องใช้ในส่วนใดบ้าง โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ในเบื้องต้น จะต้องเตรียมใบมรณะบัตร ภาพถ่ายให้พร้อม อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเองมีข้อมูลอยู่แล้ว เช่นเดียวกับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และที่โรงพยาบาลต่าง ๆ
นอกจากนี้ นายยงยุทธยังได้ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตถอนฟ้องแพ่งต่อหน่วยงานรัฐ หรือกองทัพบกที่ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะหากคดียังไม่สิ้นสุด รัฐก็ยังไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ ส่วนคดีอาญานั้น ยังคงสามารถดำเนินขั้นตอนการฟ้องได้ต่อไป