ความคืบหน้าประชาธิปไตยในฟิลลิปปินส์: ประธานาธิบดีและวุฒิสภาฟิลิปปินส์เริ่มไต่สวนถอดถอนประธานศาลฎีกา

กรุงเทพธุรกิจ 16 มกราคม 2555 >>>




ฟิลิปปินส์เริ่มกระบวนการถอดถอนผู้พิพากษาศาลฏีกาครั้งประวัติศาสตร์ข้อหาป้องอดีตผู้นำและทุจริต

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาฟิลิปปินส์ 23 คน จะนั่งทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษารับฟังการไต่สวนก่อนตัดสินว่า นายเรนาโต โคโรนา ผู้พิพากษาศาลฎีกา สมควรถูกถอดออกจากตำแหน่ง และจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดคนแรก ที่ถูกตัดสินในข้อหาทุจริต ในความพยายามปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชั่นของประธานาธิบดีเบนิญโญ อคิโนหรือไม่
นายอคิโน ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2553 ด้วยนโยบายยุติการทุจริตที่ขัดขวางความเจริญของฟิลิปปินส์มานานหลายสิบปี และตังเขาเคยพูดว่า ปัญหานี้เสื่อมทรามลงภายใต้การบริหารประเทศ 10 ปีของอดีตประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย
นางอาร์โรโย วัย 64 ปี ถูกจับกุมเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วในข้อหาโกงการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี 2550 และปัจจุบัน กำลังรอการพิจารณาคดีอยู่ที่โรงพยาบาลทหาร
จากนั้นประธานาธิบดีอคิโน ได้หันมาขอเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา เพื่อเริ่มกระบวนการถอดถอนนายโคโรนา วัย 63 ปีเมื่อเดือนที่แล้วในข้อหาพยายามปกป้องนางอาร์โรโยมิให้ถูกดำเนินคดี และทุจริต
นางอาร์โรโย แต่งตั้งผู้พากษาโคโรนา อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาของเธอ นั่งเก้าอี้ผู้พากษาศาลสูง ไม่นานนักก่อนก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2553 ซึ่งนายอคิโนกล่าวว่า นางอาร์โรโย กระทำการขัดรัฐธรรมนูญที่ห้ามผู้นำที่กำลังจะพ้นตำแหน่งแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญ
ผลสำรวจความเห็นประชาชนพบว่า นายอคิโน มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากความพยายามปราบทุจริต แต่นักวิจารณ์และแม้แต่ผู้สนับสนุนบางคนมองว่า เป็นนายอคิโนเองที่กำลังทำเกินขอบเขตอำนาจตามรัฐธรรมนูญ และอาจเป็นอันตรายต่อความเป็นอิสระของระบบตุลาการ
นายโคโรนา ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างในหมู่นักกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ศาลหลายร้อยคนในกรุงมะนิลา พากันแต่งดำและผละงานในวันจันทร์เพื่อแสดงการสนับสนุน
รัฐธรรมนูญกำหนดว่า ส.ว. 2 ใน 3 หรือ 16 คนจะต้องลงมติถอดถอน จึงจะมีผลให้นายโคโรนาเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาคนแรกที่ถูกถอดออกจากตำแหน่ง จนถึงปัจจุบัน มีเพียง 8 คนเท่านั้น ที่ส่งสัญญาณว่าจะโหวตถอดถอน แต่การไต่สวนจะใช้เวลาอีกหลายเดือนและยังยากจะคาดการณ์ผลสรุป