มหาอุทกภัยจะพัดพาประเทศไทยพินาศหรือไม่ ?

บทความประจำสัปดาห์ 24 ตุลาคม 2554
โดย ธิดา ถาวรเศรษฐ ....




รัฐบาลใหม่ที่ประชาชนเลือกเข้าม า มีเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เพียงเดือนกว่า ๆ ที่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ถูกทดสอบอย่างหนักหนาสาหัส ไม่ทันให้ตั้งตัว จึงมีคำถามว่า มหาอุทกภัยครั้งนี้ จะเกิดวิกฤตประเทศไทยครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งด้านกายภาพประเทศและเศรษฐกิจการเมืองหรือไม่ ?
เมื่อครั้งรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เกิดวิกฤตการเงิน... จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในวิกฤตการเงินครั้งนั้น สังคมไทยรับรู้เฉพาะปรากฏการณ์ หาใช่ธาตุแท้หรือเบื้องลึกเบื้องหลัง ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และเกิดงูเห่า ได้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลใหม่ ตามความประสงค์ของเครือข่ายระบอบอำมาตย์ ครั้งนั้นประเทศไทยประสบหายนะอันเนื่องมาจากการล้มละลายของทุนการเงิน ไฟแนนซ์, ทรัสต์, กองทุนการเงิน, ธนาคาร จนล้มละลายทั้งประเทศ ปัจจุบันยังมีหนี้สินค้างชำระ รัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยนับแสนล้านแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่มีปัญญาจะจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ยังไม่แสดงให้สังคมเห็นว่า รับผิดอะไร และรับผิดชอบปัญหาที่ตนเองขาดความสามารถรับผิดชอบดูแลเรื่องธนาคารและการ เงินของเอกชน และของประเทศไทย
วิกฤตการ เงินได้ล้มรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ มาแล้ว เราต้องคอยดูต่อไปว่า วิกฤตมหาอุทกภัยครั้งนี้ จะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือไม่? กลไกรัฐของระบอบอำมาตยาธิปไตย ได้แสดงตัวในวิกฤตครั้งนี้ นับจากการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน การระบายน้ำและเก็บกักน้ำของเขื่อนใหญ่ กลไกของกระทรวงมหาดไทย กองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพมหานคร สำแดงตัวที่ไม่อาจเป็นเอกภาพในการบูรณาการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ได้
ดังที่ผู้เขียนได้เคยกล่าวแล้วว่า ต้องใช้เทคโนโลยีทันสมัย และองค์ความรู้ระดับรู้ลึกรู้จริง วิเคราะห์และแก้ปัญหาเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นฝ่ายกระทำ เพราะการตั้ง ศปภ. การประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงเกี่ยวกับสาธารณภัย มาตรา 31 ก็ถูกต้อง แต่เป็นการทดสอบให้เห็นว่าระดับความรู้ความสามารถของการวางแผน ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ระดับชาติในเรื่องน้ำและบริหารจัดการ บูรณาการยังไม่เพียงพอ เมื่อเผชิญกับความยิ่งใหญ่ของมหาอุทกภัยครั้งนี้
ที่สำคัญคือ ยังมีความพยายาม ปัดแข้ง ปัดขา ชิงดี ชิงเด่น โจมตี ใส่ร้าย ไม่นำเสนอข้ออ่อนอย่างสร้างสรรค์ ทำให้การประสานงานที่ต้องช่วยเสริมสร้าง กลายเป็นจุดอ่อน ทำให้งานไม่สำเร็จด้วยซ้ำ
ประหนึ่งว่าเอาความหายนะของ ประเทศและของประชาชนมาซ้ำเติมทำลาย แลกกับการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง ขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือโดยการบิดเบือนข้อมูล และใส่ร้ายป้ายสี หรือพูดความจริงเพียงบางส่วน ล้วนส่อให้เห็นความกระเหี้ยนกระหือรือ ในการทำลายรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง รัฐบาลเพิ่งมาทำงานเพียง 2 เดือน ปัญหาที่เกิดนั้นเป็นการแสดงถึงอำนาจกลไกรัฐในระบอบอำมาตยาธิปไตยมากกว่า ที่ไม่ให้ความร่วมมือ ประสานงาน หรือบางส่วนอาจจงใจทำให้เสียหายด้วยซ้ำ หรือทำไปด้วยความไม่ฉลาด ไม่เอาใจใส่ เฉื่อยงาน นี่คือรัฐอำมาตยาธิปไตยแท้ ๆ เป็นอุปสรรคกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ส่วนภาคประชาชนนั้น ความจริง เครือข่าย แกนนำ คนเสื้อแดง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครือข่ายของ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน เข้มแข็งพอที่จะสนับสนุน ปฏิบัติการ ช่วยเหลืองานอุทกภัยของประเทศได้เป็นอย่างดี แต่ เราไม่อาจแสดงบทบาทได้เต็มที่ เพราะรัฐบาล กับ สส. จะเป็นด้านหลักของคณะผู้ทำงานสำหรับ นปช. มีการรณรงครับบริจาคตั้งแต่เดือนกันยายน และออกช่วยเหลือประชาชนในเขตน้ำท่วมภาคกลาง ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นมาเป็นลำดับ
การรณรงค์ครั้งใหญ่ก็มาจัด ในวันที่ 14 - 15 ตุลาคม การตั้งเต้นท์และเปิดบัญชีรับบริจาคของคนเสื้อแดงส่วนต่าง ๆ ทั้งสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ และกลุ่มต่าง ๆ ของคนเสื้อแดง เป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งการรับบริจาคและแจกจ่ายให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในท้องที่ต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงสีเสื้อแต่อย่างใด เงินและของส่วนใหญ่ในระยะหลังจากวันที่ 14 ตุลาคม ก็มอบให้รัฐบาลเกือบหมด รวม ๆ หลายสิบล้านแล้ว แต่บ้างก็นำไปแจกจ่ายเอง เพราะถ้าพิจารณาจำนวนคนและศักยภาพของคนเสื้อแดง เราควรจะทำเป็นระบบได้ดีกว่านี้ ถ้าเราไม่นำสิ่งของและเงินทั้งหมดไปมอบให้รัฐบาล แต่โดยที่คนเสื้อแดงไม่ต้องการให้มีคำครหาเรื่องเลือกปฏิบัติ หรือเรื่องเงินบริจาค ก็นำเงินและของไปมอบให้รัฐบาล ดังนั้น เมื่อประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็พากันออกมาทั้งรับบริจาคและออกตระเวณแจกของที่ได้รับบริจาคมาโดยตรง และส่วนหนึ่งจากดอนเมือง นี่ไม่ใช่เรื่องเอาหน้าเอาตา และไม่เคยขอไปร่วมประชุมหรือร่วมวางแผนแต่อย่างใด คนเสื้อแดง ทำตัวเป็นผู้ช่วยทำงานปลายแถว ออกแรง ออกเงินทองส่วนตัว จนเจ็บไข้ได้ป่วย บ้านตนเองถูกน้ำท่วมไปตาม ๆ กัน
ดังนั้น ที่ประชาชนที่เป็นนปฏิปักษ์กับคนเสื้อแดง กล่าวหาว่า มีแต่คนเสื้อแดงที่ ศปภ.ดอนเมือง ก็มาจากความน่ารักและน้ำใจของพวกคนเสื้อแดง ที่ยินดีอุทิศตนเอง และทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อทำงานช่วยเหลือประชาชน ผู้เขียนรับรองแทนพี่น้องเสื้อแดงได้ว่า พวกเขาช่วยประชาชนผู้ประสบอุทกภัยและความเดือดร้อน โดยมิได้คำนึงว่าเป็นเสื้อสีอะไร และคนเสื้อแดงที่มาช่วยน้ำท่วมจำนวนมากก็นอกเครื่องแบบ (ไม่ใสเสื้อแดง)
คน ที่ถูกเรียกว่า กลุ่มสลิ่ม หรือสีเสื้อใดที่บิดเบือนข้อมูล ใส่ร้ายป้ายสี ว่าคนเสื้อแดงใช้เงินรัฐบาลมาหาประโยชน์ให้กลุ่มตนและสร้างเครดิต ขอให้รับรู้เสียใหม่ว่า มันตรงข้ามกับที่ท่านคิด เงินและของบริจาคเขาก็หามาให้รัฐบาล อาสาสมัครเสื้อแดงก็มีทุกพื้นที่ทั่วประเทศ นี่เราไม่ได้ระดมพลกันจริงจัง เป็นลักษณะอาสาสมัครตามธรรมชาติ ไม่ระดมตามองค์กรจัดตั้งแต่อย่างใด ต้องขอถามว่า
“ท่านรู้จักคนเสื้อแดงน้อยเกินไปรึเปล่า ?”
ชีวิตพวกเขาส่วนใหญ่ อุทิศให้กับประเทศชาติและประชาชนทั่วประเทศ ทุกสีเสื้อ รวมทั้งคนที่ไม่ชอบเขาด้วย