คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดยสมิงสามผลัด
การวิพากษ์วิจารณ์กรณีรัฐบาลอนุมัติเยียวยาศพละ 7.75 ล้านให้ผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งทางการเมืองนั้น
ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย
ยิ่งกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพลพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ก็ยิ่งเข้าใจได้
เพราะการสลายม็อบแดง 91 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน เกิดขึ้นในยุคสมัยที่นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศ
การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุ่มงบประมาณ 2 พันล้านชดเชย ช่วยเหลือ และเยียวยาด้านจิตใจให้ผู้สูญเสีย เท่ากับเป็นการประจานความไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองด้วยสันติวิธีในอดีต
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังพยายามตั้งข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่เยียวยาไปถึงเหยื่อไฟใต้ หรือผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ช่วงปี 2535, 2516 และ 2519
การออกมาแสดงความเห็นแบบนี้ยิ่งพิลึก
เพราะนายอภิสิทธิ์รู้ดีอยู่แล้วว่าทำไมถึงชดเชยเฉพาะช่วงปี 2548-2553
ทั้งนี้ การชดเชยเยียวยาครั้งนี้รัฐบาลพิจารณาตามข้อเสนอของคอป. ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อค้นหาความจริงกรณีการสลายม็อบ นปช. ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 โดยมีนายอภิสิทธิ์เป็นคนตั้งคอป.ขึ้นมากับมือ
จึงรู้ถึงขอบเขตและอำนาจการพิจารณาของ คอป. เป็นอย่างดี
ฉะนั้น การไปโยงถึงเหยื่อไฟใต้ เหยื่อพฤษภาทมิฬ ฯลฯ
ก็แค่เกมดิสเครดิตตามสไตล์ประชาธิปัตย์ !?
ถ้านายอภิสิทธิ์ลดอคติ แล้วมองในอีกมุม ก็จะเข้าใจได้ว่ารัฐบาลชุดนี้จ่ายเยียวยาผู้สูญเสียจากเหตุความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ จะทำให้บรรยากาศความสามัคคีแจ่มชัดขึ้น
เพราะรัฐบาลเยียวยาทุกสีทุกม็อบที่ได้รับผลกระทบ ทั้งม็อบเหลือง ม็อบแดง ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับการเหลียวแลเยียวยาทั้งหมด
มุ่งใช้ความเสมอภาค ไม่เลือกแบ่งพวกแบ่งฝ่าย เพื่อนำไปสู่การสมานฉันท์ในอนาคต
ดังนั้น ถ้ามองแบบที่มีใจเป็นธรรม จะเห็นได้ว่าการเยียวยาครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการปูนบำเหน็จคนเสื้อแดง หรือตบรางวัลให้พวกพ้อง แบบที่พวกแมลงสาบออกมาติติงวิพากษ์วิจารณ์
ไม่มีใครหรอกที่จะยอมเดินดุ่มๆ ไปให้สไนเปอร์ยิงตายกลางถนน
เพื่อแลกกับเงิน 7.75 ล้าน !!