“เต้น” ชี้แค่ธนาคารปล่อยสินเชื่อ รบ.เรื่องก็จบ หวังใจสัปดาห์หน้ามีข่าวดีให้ชาวนา




วันที่ 13 ก.พ. ที่ห้องสมุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย มีการจัดเสวนา" จำนำข้าวเพื่อชาวนาไทย " โดยเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย นายยรรยง พวงราช และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาร่วมแสดงความเห็น โดยมีตัวแทนเกษตรกรและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาร่วมรับฟัง โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่รับซื้อข้าวจากเกษตรกรโดยต้องมีข้าวมาเข้าโครงการ ต่างจากโครงการประกันราคาที่ไม่ต้องมีข้าวมาแสดง ความแตกต่างเกิดขึ้นทันทีตรงที่ไม่สามารถพิสูจน์คุณภาพและปริมาณข้าวได้ มีเพียงตัวเลขอ้างอิงจากการแจ้งเอกสารสิทธิของเกษตรกรเท่านั้น ทั้งนี้ โครงการจำนำข้าวทำให้เกษตรกรต้องปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตสูงจึงจะเข้าโครงการได้ นอกจากนี้ราคาจำนำที่สูงจึงเป็นเครื่องจูงใจ ทำให้นาร้างพลิกฟื้นกลับมาปลูกข้าวเพื่อเข้าโครงการ ส่วนที่ว่าโครงการจำนำข้าวเป็นการทำลายคุณภาพข้าว เนื่องจากเกษตรกรต้องเร่งการผลิตข้าวเพื่อนำข้าวมาจำนำ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลได้กำหนดเกณฑ์ของข้าวที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการไว้ โครงการนี้จึงมีความตรงไปตรงมาในการชำระเงินให้เกษตรกร มีขั้นตอนตรวจสอบชัดเจน ทำให้เกษตรกรได้เงินเต็มราคา

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เม็ดเงินที่ชาวนาได้รับก็มีการโอนเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง โดยตั้งแต่รอบการผลิตครั้งแรกจนถึงรอบปัจจุบัน ธกส.โอนเงินตรงถึงบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 7 แสนล้านบาท และโอนกันกันทุกวันจนถึงขณะนี้ คาดว่าเม็ดเงินจะเกิน 7 แสนล้านบาทแล้ว เกษตรกรเข้าร่วมโครงการกว่า 3.26 ล้านรายก็ได้ประโยชน์ ที่บอกว่าเม็ดเงินเพิ่งเข้ากระเป๋าชาวนาเพียงแสนล้านบาทนั้นจึงไม่เป็นความจริง ส่วนที่บอกว่าโครงการเดินมาถึงจุดที่รัฐบาลจะไม่มีเงินจ่ายชาวนา เพราะรัฐบาลโกงก็ไม่เป็นความจริง ปัญหาเพิ่งจะมาเกิดในครั้งนี้ เพราะต้องยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน มีการตรวจสอบหลายขั้นตอนจากคณะกรรมการหลายชุด ทำให้การจ่ายเงินล่าช้าไปบ้างแต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เบี้ยว หรือรัฐมนตรีเอาเงินมาแบ่งกันเองตามที่มีการกล่าวหา

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนที่กล่าวหาว่าโครงการนี้มีการทุจริตเกิดขึ้นนั้น ยอมรับว่าโครงการนี้อาจมีการทุจริต เพราะมีการยื่นเรื่องและอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่เป็นเพียงการกล่าวหาเรื่องขั้นตอนการระบายข้าวซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการจ่ายเงินให้ชาวนา และสิ่งที่อยากตั้งข้อสังเกต คือโครงการประกันราคาข้าวของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบเช่นกัน เพียงแต่ขั้นตอนตรวจสอบของรัฐบาลนี้เดินเร็วไปกว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มาก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้บิดพลิ้วไม่จ่ายเงิน แต่ปัญหาการจ่ายเงินล่าช้า เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้กระทบต่อการกู้เงินเพราะเราเป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลโกงจำนำแล้วไม่จ่ายเงินจึงไม่เป็นความจริง ขณะนี้มีเพียงเจตนาของคนบางกลุ่มพยายามขยายความเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการล้มรัฐบาล โดยเอาความจริงมาบิดเบือนให้ประชาชนเกิดความไขว้เขว

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า จากรอบรับจำนำปี 56 - 57 เริ่มจากเดือน ต.ค.เรายืนยันว่าจ่ายครบหมดแล้ว แต่มีบางส่วนที่ตกค้างซึ่งก็ได้สั่งการให้ ธกส.ให้จ่ายเงินให้ครบแล้ว ส่วนเดือน พ.ย.รับจำนำและจ่ายเงินไปแล้วกว่าร้อยละ 60 นอกจากนี้มีการเอาข้าวมาจำนำเกินกว่ากรอบวงเงินที่รัฐบาลกำหนดไว้ การอนุมัติเงินส่วนนี้จะจ่ายทันทีไม่ได้ต้องเอาเข้า ครม.อนุมัติงบกลางไปจ่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เพิ่งได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 20 ม.ค. พอเรื่องมากกระทรวงฯ ดำเนินการเอาเรื่องเข้า ครม.กระทั่งอนุมัติงบกลาง 763 ล้านบาท ที่ค้างเต็มจึงมีเฉพาะเดือน ธ.ค. – ม.ค.ต่อเนื่องมาถึง ก.พ.เพราะเราเป็นรัฐบาลรักษาการ ยืนยันว่าไม่ได้ค้าง 6 – 7 เดือนตามที่มีการกล่าวหา


“วิธีการที่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหานี้ คือสถาบันการเงินปล่อยกู้ให้รัฐบาลเพื่อนำมาจ่ายให้กับชาวนา ทุกอย่างก็จะจบทันที แต่ที่ไม่มีเม็ดเงินเพราะธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศจะไปปิดล้อมธนาคารที่ปล่อยกู้ ส่วนที่ให้รัฐบาลนี้ลาออกเพื่อให้รัฐบาลคนกลางเข้ามาจ่ายเงินให้ชาวนานั้นก็ไม่ใช่ทางออก ยืนยันว่าไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญอนุญาตให้รัฐบาลลาออก  ส่วนวิธีการให้ชาวนาไปฟ้องรัฐบาลให้ได้เงินกว่าคดีความจะยุติต้องใช้เวลานาน มีแต่สภาทนายความเท่านั้นที่ได้เงินค่าทนาย ไม่มีหลักประกันใดๆ เลยว่าชาวนาจะได้รับเงินเร็วขึ้น ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาการเมืองแต่มีคนโยงเป็นประเด็นการเมือง บางทีก็จำเป็นที่ชาวนาซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ ต้องออกมาแสดงพลังประกาศตัวให้สถาบันการเงินเห็นหัวชาวนาบ้าง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการกับสถาบันการเงินอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อลึกๆ ว่าประมาณต้นสัปดาห์หน้าจะมีข่าวดีให้กับชาวนา แต่ถ้ายังไม่เลิกใช้เกมใต้ดิน ใช้กำลังภายในสกัดกัน ผมก็จะลุกขึ้นมาประกาศข่าวร้ายกับสถาบันการเงินก่อนต้นสัปดาห์หน้าเช่นกัน" นายณัฐวุฒิ กล่าว

ที่มา ข่าวสด