แถลงข่าวนปช.แดงทั้งแผ่นดิน"เกาะติดสถานการณ์พิเศษ" 13 ก.พ. 57 (ชมคลิป)



ทีมข่าว นปช.
13 กุมภาพันธ์ 2557

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียลลาดพร้าว แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์แห่งชาติ(นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว “ในสถานการณ์พิเศษ”

















อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. กล่าวว่า ที่เราเคยพูดกับนานาชาติว่า กกต.นั้นเป็น กกต.หนึ่งเดียวในโลกที่ไม่ต้องการจัดการเลือกตั้ง โดยช่วงเย็นเมื่อวานนี้ก็ได้นัดและมีความพยายามที่จะอธิบายกับชาติต่างๆ ถือว่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว จึงอยากแจ้งกับ กกต.ว่า พวกคุณก็ไปชี้แจงให้ดีเถิด ตอบคำถามเขาให้ได้ว่าทำไมคุณต้องเลื่อนการเลือกตั้งไปไกลถึงเดือนเมษายน ทำไมคุณไม่ฟ้องร้องผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง ทำไมเมื่อวันที่26 และวันที่2 ทำไมคุณไม่ทำให้ดีกว่านี้ และทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ ที่ร้ายที่สุดก็คือ บางเขตใน28เขตที่คุณอ้างว่าไม่มีผู้สมัครนั้น แท้จริงคุณไม่ต้องการให้มีผู้สมัคร และทำให้การสมัครนั้นไม่เป็นไปอย่างราบรื่น แสดงให้เห็นว่าทั้งหมดนี้คุณไม่ได้มีความพยายามมากพอ


ประธานนปช.ยังได้ แสดงความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ท่านมีสิทธิ์ที่จะวินิจฉัยมา มีคำร้อง2คำร้องคือนายทนายเสือธนพล สุขปาน ผู้ร้อง กับอีกคำร้องที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์เป็นผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรธน.มาตรา68 ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่1กับพวกรวม 10 คน กระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข หรือเพื่อได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐ ธรรมนูญนี้หรือไม่ ทั้ง2คำร้องศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เป็นการกระทำสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล จึงอ้างว่าไม่มีมูลกรณีที่มีการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระ มหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งอำนาจไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ

“กราบเรียนท่านว่า มันค้านสายตากับประชาชนทั้งประเทศและคนทั้งโลก กรณีมาตรา68 นี่เป็นการค้านกับความคิดของประชาชนและคนทั้งโลก ได้ยินว่าสุเทพและคณะไม่ได้ต้องการให้มีสภาผู้แทนราษฎรอันมีการเลือกตั้ง ตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแต่อย่างใด 2อย่างนี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้ว ในการโฆษณา ในการปลุกระดมถือเป็นการล้มล้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”ประธานนปช.กล่าว


อ.ธิดาได้ ตั้งคำถามถึง ปปช.ในประเด็นการจำนำข้าว ท่านอาจมีการสืบสวนสอบสวนกับรัฐบาลท่านก็มีสิทธิ์ แต่ปัญหาคือมาตรฐานของท่านเป็นเช่นไร กรณีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะขายข้าว 3.4 ล้านตันโดยวิธีงุบงิบ และมีคนฟ้องร้องในปี53 มีการขายข้าวโดยวิธีที่ไม่เหมือนเดิม 4 หมื่นกว่าล้านบาทกับผู้ส่งออกจำนวน 8 ราย โดยมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการ ท่านเอาเรื่องเหล่านี้ไปซุกเอาไว้ที่ไหน ทำไมท่านไม่พิจารณา ทำไมท่านเลือกปฏิบัติ  เราจึงขอเตือนองค์กรอิสระทั้งหลาย กกต. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ กสม.ด้วยว่า ความชอบธรรมความถูกต้องนั้นสำคัญที่สุด ไม่ใช่อำนาจและเสื้อครุยที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าถ้าปราศจากความชอบธรรมประวัติศาสตร์จะจารึกเอาไว้แน่นอน ว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นทำให้ประเทศชาติย่อยยับเพียงใด


ธนาคารกรุงไทยได้โฆษณาในตู้เอทีเอ็มของธนาคารในต่างจังหวัดว่า “ธนาคารกรุงไทยยืนยันไม่ได้อนุมัติเงินกู้โครงการจำนำข้าว” แล้วคุณจะเสียใจที่ติดประกาศแบบนี้ คนจำนวนมากเขาก็จะเป็นปฏิปักษ์กับคุณ นี่ประจานให้เห็นว่าธนาคารกรุงไทยตัดสินใจพลาดอย่างไร ทั้งที่เป็นธนาคารของรัฐบาล ในอดีตธนาคารได้ทำความย่อยยับมาตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง รัฐบาลเอาเงินจากภาษีประชาชนมาแก้ปัญหาให้ธนาคารทั้งหมด รวมทั้งทุนการเงินโดยเฉพาะธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารที่รัฐบาลถือหุ้นสูงสุด

ดังนั้นเราขอเตือนมายังชนชั้นนำในประเทศไทยที่พวกคุณคิดว่าคุณผูกขาดความถูก ต้อง คุณผู้ขาดคุณงามความดี คุณไม่เคยเห็นหัวชาวนา พอมาวันนี้คุณมาประจบชาวนาเพราะม็อบคุณไม่มีคนแล้วใช่หรือเปล่า จึงเอาชาวนามาเป็นเครื่องมือ ถามว่าถ้าคุณเห็นหัวชาวนาคุณจะมาทำม็อบทำไม คุณแคร์ชาวนาคุณก็ทำนโยบายที่ดีกับชาวนา นี่คุณไม่เห็นหัวชาวนาคุณจึงอยากจะมีแต่สภาประชาชนชั้นสูงและชนชั้นกลางเท่า นั้น แต่ทำไมตอนนี้คุณจะหันมาจูบปาก เราเชื่อว่า ชาวนาทั้งหลายขอให้ตื่นจากมนต์ดำนายจรกาคนนี้เถิด ชาวนาพี่น้องเรามีอนาคตที่จะต้องแก้ไขเรื่องใหญ่ คือโครงสร้างของการเกษตรประเทศไทย ต้องแก้ทั้งหมด ถ้าผ่านเวลาสับสน นปช.ก็ต้องเขียนนโยบายทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะปัญหาการเกษตรและการลดความเลื่อม ล้ำออกมาเป็นชุด แต่ขณะนี้เฉพาะหน้าเรารบกับ กกต.ให้มีการเลือกตั้งให้ได้ รบกับ กปปส.ที่หลอกชาวนา เราหวังว่าประชาชนไทยทั้งประเทศแม้เราจะไม่ได้มีอำนาจในเชิงที่เป็นอำนาจรัฐ แต่อำนาจประชาชนเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าหัวโขนปลอมๆ ของคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นผู้ดีและเป็นคนดีแน่นอน

ด้านนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.กล่าวว่า ในขณะนี้กกต.ถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในฝั่งตรงกันข้ามเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย และล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นพ.เหวง ยังได้ตั้งข้อสงสัยถึงกรณีที่เดิมจะมีการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.พ.ปรากฎว่ามีการเลื่อนไปยังเดือนเมษายน มีการเลื่อนการเลือกตั้งซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 127 นั้นระบุชัดว่า จะต้องมีการเปิดประชุมภายหลังจากวันเลือกตั้ง 30 วัน ฉะนั้นวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.และจะต้องมีการเปิดประชุมในวันที่ 4 มี.ค.ถ้าหากไม่สามารถเปิดประชุมได้ถือว่าเป็นความผิดของกกต. และได้เรียกร้องให้ประชาชนไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ว่าเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนวันเลือกตั้งไปจาก เป็นการจงใจดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะกกต.จะต้องดำเนินการจัดเลือกตั้งให้ได้ ส.ส.จำนวน 95% เพื่อให้เปิดประชุมสภาฯ ได้ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งนี้สัปดาห์หน้าตนจะพิจารณายื่นฟ้องร้อง กกต.โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในเรื่องที่ กกต.ต้องเร่งจัดการเลือกตั้งเพื่อให้ได้ ส.ส.ครบ 95 % เพื่อให้เปิดประชุมสภาฯ ได้ เรื่องนี้ กกต.ชุดที่ผ่านมาให้ความสำคัญโดยยึดเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อให้เปิดประชุมสภาฯ ได้ ส.ส.บางคนยังเป็นสีเทา แต่ก็ปล่อยไปก่อน เพื่อให้เปิดประชุมสภาฯได้ เรียกว่าปล่อยไปก่อนแล้วไปสอยทีหลัง แต่ครั้งนี้กลับไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 20 เม.ย.เป็นการจงใจเพื่อปล่อยเวลาให้ ป.ป.ช.เล่นงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในกรณีจำนำข้าวหรือไม่

นพ.เหวง ยังได้นำภาพถ่ายของนายสุเทพ  ที่ระบุว่าเป็นการถ่ายในห้องพักของโรงแรมดุสิตธานีมาแสดง พร้อมระบุว่าขอให้ทางโรงแรมดุสิตธานีชี้แจงมาว่านายสุเทพเข้าพักจริงหรือไม่ โดยห้องพักดังกล่าวราคาถึงคืนละ 5 หมื่นบาท นอกจากนั้นรถยนต์ที่นายสุเทพใช้ยังเป็นรถยนต์กันกระสุนวิ่งเข้าออกพื้นที่ชุมนุมตามปกติ ซึ่งตนจะส่งภาพถ่ายรถยนต์คันดังกล่าวให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศรส.เพื่อให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับตัวนายสุเทพต่อไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก