เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผบก.น.6 และชุดสืบสวน ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เริ่มประชุมกันมาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมาพบว่า บุคคลทั้ง 2 ที่ถูกออกหมายจับตามภาพถ่ายไปแล้ว เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์อย่างแน่นอน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายจับเอาไว้ตั้งแต่ปี 2553 ยืนยันว่าเงินรางวัลดังกล่าวได้รับเงิน 20 ล้านบาทจากนายพานทองแท้ ชินวัตร เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา สำหรับเป็นค่ารางวัลนำจับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภพทั้ง 2 คนอยู่ตนและทาง บช.น. ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และได้สั่งการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาในการเบิกจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ส่วนของหลักฐานผู้ที่ทำการลงมือเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ขณะนี้ขอยืนยันว่า มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพถ่ายเพียง 2 คนเท่านั้นที่ชัดเจนส่วนอีก 6 คนอยู่เข้าข่ายที่จะเรียกตัวมาสอบสวน รวมทั้งหมดแล้วมีถึง 39 คน ซึ่งการแจ้งข้อมูลเบาะแส ขอเรียนพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า จากเดิมที่ได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์หมายเลข 02-354-8226 ขณะนี้มีเพิ่มอีกเบอร์คือหมายเลข 02-354-5990 ถ้าใครสามารถพาตำรวจชี้ตัวผู้ต้องหา จนนำไปสู่จับกุมได้ในทันทีนั้น ก็จะได้รับเงิน 10 ล้านบาททันที
“เบื้องต้นเริ่มมีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาบ้างแล้ว แต่เมื่อทำการตรวจสอบปรากฏว่ายังไม่ค่อยเป็นประโยชน์ในการสอบสวน ส่วนการออกหมายจับเพิ่มเติมกับผู้ต้องสงสัยหรือไม่นั้น ต้องดูหลักฐานที่ได้มาให้ชัดเจนก่อน ซึ่งจะมีการหารือในการประชุมครั้งต่อไป จะเชิญดีเอสไอมาร่วมประชุมด้วย ถ้าหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะดำเนินการออกหมายจับทันที ทั้งนี้ ชุดสืบสวนจะส่งหลักฐานให้ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป” ผบช.น. กล่าว
ด้านพล.ต.ต.อนุชัย กล่าวถึงการดูแลเงิน 20 ล้านบาทว่า สำหรับเรื่องการรับมอบเงินจำนวน 20 ล้านบาท ที่นายพานทองแท้มามอบให้บช.น.นั้น เป็นเงินสินบนรางวัลนำจับให้ผู้ที่ชี้เบาะแสไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ภาพ และอีกรายอื่นๆ ที่กำลังจะตามมานั้น ทาง บช.น.ได้ตั้งให้ตน และผู้เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการเบิกจ่ายสินบนรางวัลนำจับ โดยยึดแนวทางการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้กับทางราชการพ.ศ.2526 และได้มีการออกหลักฐานการรับเงิน อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกส่งเงินไปเก็บที่กรมบัญชีกลาง ตามระเบียบการเบิกจ่ายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ ประกอบกับระเบียบคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
